ภาพยนตร์ในประเทศไทย
- เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงในปีพ.ศ. 2488 กิจการภาพยนตร์ของโลกและของ ไทยกลับฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง มีการสร้างภาพยนตร์เสียงและภาพยนตร์สีธรรมชาติ ด้วยฟิล์ม 16 ม.ม. อย่างแพร่หลาย จนกระทั้งประมาณ พ.ศ. 2504 เป็นต้นมา
- ถือว่าป็น ยุคทองของกิจการภาพยนตร์ไทย มีการสร้างภาพยนตร์โดยบริษัทคนไทยซึ่งมีอยู่จํานวนมาก ผลิตภาพยนตร์ออกฉายทั่วประเทศรวมกันปีละเกือบร้อยเรื่องและเกิดปรากฏการณ์ใหม่อย่างหนึ่งคือ การผูกขาดความนิยมในตัวผู้แสดงคู่พระคู่นางที่สําคัญคือ มิตร ชัยบัญชา และเพชรา เชาวราชฎร์
- เกือบครึ่งหนึ่งของภาพยนตร์ใน ยุคนั้นใช้ผู้แสดงคู่นี้ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ฉายในกรุงเทพฯ นาน ติดต่อกันถึง 6 เดือนทํารายได้สูงถึง 9 ล้านบาท ได้แก่เรื่อง "มนต์รักลูกทุ่ง"
- หลังจาก มิตร ชัยบัญชา เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการแสดงภาพยนตร์กิจการภาพยนตร์ไทยได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคของภาพยนตร์ไทยมาตรฐาน 35 ม.ม. มีนักแสดงที่มีชื่อเสียงเกิดชึ้นในยุคหลังจํานวนมาก
- กิจการภาพยนตร์ไทยเฟื่องฟูอยู่ได้ระยะหนึ่ง จนถึงประมาณปีพ.ศ. 2524 ได้เกิดการขยายตัวของกิจการวิทยุโทรทัศน์และการนําเข้าภาพยนตร์จากต่างประเทศ ประกอบการแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ของ แถบบันทึกภาพ (Video Tape) ทําให้การผลิตภาพยนตร์ลดลง โรงภาพยนตร์ที่มีอยู่ ทั่วประเทศราว 700 โรง หลายโรงต้องเลิกกิจการไป
- คนในวงการภาพยนตร์ส่วนหนึ่ง หันไปทํางานด้านโทรทัศน์แทน
- ปัจจุบันคงเหลือบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่สําคัญอยู่ เพียง 4 รายใหญ่ คือ ไฟว์สตาร์โปรดัคชั่น สหมงคลฟิล์ม เอแพ็กซ์โปรดักชั่น และพูน ทรัพย์ฟิล์ม